จำได้ไหม!? คดี 6 โจ๋ รุมฆ่าชายพิการ อัยการสั่งฟ้อง ชี้ชัดเต็มๆจัดหนักข้อหาแบบนี้ !???

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 11 อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายว...


เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 11 อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายวิเชียร ถนอมพิชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการสั่งฟ้องกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายนายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายพิการอาชีพส่งขนมปัง เสียชีวิต ย่านโชคชัย 4 (อ่านข่าว : รุมฆ่าชายขาพิการ 6โจ๋โหด! อุกอาจ-กลางกรุง ทั้งมีดฟันแทง-หินทุบซ้ำ


 เรือโทสมนึกกล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนสน.โชคชัยส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องนายพีระพล หรือเปา ยศพงษ์อนันต์, นายอัครเดช หรืออั๋น ทัศนะ, นายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์, นายจตุพร หรือเบียร์ จันทร์โสภา, นายเมฆ พลไกรสร ,นายอรินทร์ หรือเตอร์ ยศพงษ์อนันต์ และน.ส.ณัชนิชา หรือเกมส์ ฤทธิ์ล้ำเลิศ ผู้ต้องหาที่ 1-7 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และกล่าวหาว่านายอัครเดช, นายจตุพร, นายเมฆ และนายอรินทร์ ผู้ต้องหาที่ 2,4-6 ว่า ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ  (อ่านข่าว : ทนายชายพิการถูก 6 โจ๋รุมฆ่า ร้องสนช.ขอดีเอสไอคุมคดี ปูดตร.ทำสำนวนเป็นทะเลาะวิวาทแทน



โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวต่อว่า ชั้นพิจารณาของอัยการ นางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาของผู้เสียชีวิต เป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ขอให้แจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 7 รายเพิ่มเติมในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 289 แต่นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ และสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2,4-6 เพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหะสถานฯ ตามสำนวนของพนักงานสอบสวน

  เรือโทสมนึก กล่าวอีกว่า ส่วนข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น คณะทำงานรองอธิบดีอัยการและอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพิจารณาพยานหลักฐาน และหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของมารดาผู้เสียชีวิตแล้วเห็นว่ายังไม่เป็นการ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 เพราะการกระทำเป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วน ไม่มีการคิดไตร่ตรอง ทบทวนแล้วจึงตกลงใจไปกระทำความผิด ดังนั้นอัยการจึงงดแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

 นายวิเชียร รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า ขณะนี้อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 รับผิดชอบสำนวนคดีกำลังร่างคำฟ้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จและยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดได้ทันภายในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ที่จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม หากยื่นฟ้องอัยการจะคัดค้านการให้ประกันตัวด้วยเหตุผลว่า อาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ญาติผู้เสียชีวิตสามารถร้องขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ และยื่นฟ้องเองในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ได้หรือไม่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 กรณี หากจะเข้าเป็นโจทก์ร่วม ญาติสามารถยื่นคำร้องต่อศาลได้เลย แต่การฟ้องจะต้องยึดสำนวนที่อัยการยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดย เจตนา ตามมาตรา 288 เป็นหลัก และถ้าขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้ว จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง อัยการยินดีที่จะช่วยเหลือทางกฎหมายร่างคำร้องในการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ให้ศาลพิจารณาร่วมกับสำนวนในคดีอาญาด้วย การแจ้งสิทธิฟ้องแพ่งดังกล่าว อัยการจะต้องแจ้งให้ผู้เสียหายทราบในทุกคดีที่เป็นหลักปฎิบัติอยู่แล้ว และถ้าเป็นกรณีที่จะใช้สิทธิยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน ตามมาตรา 289 สามารถยื่นฟ้องเองได้ เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 นั้น กฎหมายบัญญัติอัตราโทษให้ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี

http://khaohome.blogspot.com/2016/07/loading.html

ติดตามข่าวอื่นๆ

0 comments