เผย..วิธีลดการดื่มน้ำหวาน “ชาเขียว ชาเย็น” ก่อนเบาหวานจะถามหา

     หลายๆคนคงจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอน สำหรับการดื่มเครื่องดื่มหวานมัน จำพวก ชาเขียว ชาเย็น นมเย็น ฯลฯ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลส...

     หลายๆคนคงจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอน สำหรับการดื่มเครื่องดื่มหวานมัน จำพวก ชาเขียว ชาเย็น นมเย็น ฯลฯ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลสูง บางคนดื่มทุกวันจนกลายเป็นติดความหวานไปเลย แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง และเสี่ยงจากความอ้วน อย่างแน่นอน


             สมาชิกพันทิปท่านหนึ่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ติดการดื่มน้ำหวานๆ ซึ่งเธอก็ต้องการที่จะลดการดื่มลง ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก วันนี้ไข่เจียวจะพาไปดูว่า บรรดาชาวเน็ต เขามีวิธีไหนในการบำบัดตัวเองจากการเสพติดน้ำหวานบ้าง


ความคิดเห็นที่ 1

ต้องรู้จักหักใจน่ะค่ะ
แล้วก็ถ้ายังหักไม่ได้  ต้องหาพวกสารแทนความหวานแทน
อย่างหญ้าหวาน น้ำตาลแคลอรี่ต่ำ

พอดีเคยติดหวานมาก  แต่เป็นคนหักดิบเก่ง ใจแข็ง
เลยไม่เคยยาก อยากทำอะไรก้ทำได้

ถ้าคุณใจอ่อนเหยาะแหยะ ห้ามใจไม่ได้
ก็เอาแบบที่บอก หาอะไรหวานแล้วแคลอรี่ต่ำมากินแทน

ความคิดเห็นที่ 2

วิธีของผมคือ ดื่มเหมือนเดิมแต่ลดความหวาน หรือหวานน้อยนั้นเอง
จากนั้นก็ดื่มวันเว้นวัน ถ้าวันไหนไม่ดื่มก็ทานผลไม้แทนครับ
ความคิดเห็นที่ 3

อยากจะบอกว่าแต่ก่อนเราติดชาเขียวขวดๆของโออิชิมากเลยค่ะ แบบซื้อทีละลัง มาแช่เย็นๆกินกับขนมอะไรก็อร่อย
แต่อยู่ๆเราก็เริ่มออกกำลังกาย หันมากินอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น ต้องเริ่มจากการลดก่อนค่ะ สำหรับเรากินวันละ 2-3 ขวด เราก็ลดเป็นวันละขวด
ต่อมาก็อาทิตย์ละขวด อาทิตย์ละขวดของเรานี่คือแบ่งกินนะคะ จิบสักสองอึกอะไรแบบนี้ ค่อยๆเป็นค่อยไปนะคะ
แต่ลดแรกๆร่างกายจะอยากน้ำตาลมากๆ เราขอแนะนำน้ำเต้าหูนะคะ ที่เป็นกล่องๆ
เราชอบดีน่างาดำ สูตรน้ำตาลน้อย กินไปเถอะค่ะมีประโยชน์ ถ้าหิวนึกอยากกินชาเขียวหวานๆก็หยิบน้ำเต้าหู้มากินแทนค่ะ ทำไปสักพักเราจะชินไปเอง ส่วนชาเขียวแบบพวกของ Amazon แต่ก่อนเราก็กินนะคะ starbucks อะไไรจัดหมด หวานๆอ้วนๆดี ตอนนี้แทบไม่ค่อยได้กินเลยค่ะ ปีนึงเรากิน 2-3 ครั้งได้ น้อยมากๆ จริงๆเราใช้วีธีสั่งชาแบบต้มสดๆแล้วบอกเขาไม่ใส่น้ำเชี่อมแทนนะคะ บางร้านจะมี จืดๆเลยค่ะ หรือไม่ก็สั่งชาที่ผสมน้ำผลไม้อยู่แล้วก็ได้ มันจะหวานแบบไม่ต้องเติมน้ำตาล พอทดแทนได้ค่ะ ถ้าอยากจริงๆแบบทนไม่ไหว
ความคิดเห็นที่ 4

โกโก้ 1 ช้อนโต๊ะพูนๆ(ผง) 20 cal
ชาเขียว 0 cal
กาแฟ 0 cal

ถ้าติดพวกนี้จริง กินแบบเพียวๆ ไม่หวาน คุณก็จะหายอยาก

แต่ถ้าไม่ แปลว่าไม่ได้ติดครับ คุณติดน้ำตาลมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 14

เราเป็นพวกทานคาวแล้วต้องทานหวานค่ะ ไม่ขนม ผลไม้ ก็ต้องน้ำหวาน
โดยเฉพาะเก๊กฮวยนี่ สรณะของชีวิตเราเลยค่ะ 555 ต้องมีวันละแก้วเป็นปกติ ^^

เรายังดื่มทุกวันนะคะ แต่เอาไปผสมน้ำเปล่าเท่าตัว

จาก 1 แก้ว ก็ได้มาเป็น 2 แก้ว
แบ่งใส่ตู้เย็นไว้ทานวันรุ่งขึ้น 1 แก้ว
เท่ากับ ลดปริมาณน้ำตาลจากปกติไป 1/2

ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ….. สบายใจเบา-เบา


ความคิดเห็นที่ 20

แต่ก่อนเราก็ติดหวานค่ะ เครื่องดื่มชงๆนี่ต้องกินทุกวัน
ทีนี้เราน้ำหนักขึ้นค่อนข้างมาก น้ำตาลก้เกือบๆสูงแล้ว
เลยใช้วิธีค่อยๆลดค่ะ แบบจากเดิมน้ำตาล2 ช้อนพูน ก็ลดเหลือช้อนเดียว จนไม่ใส่น้ำตาลเลย
แล้วก็นานๆจะกินทีนึง อย่างถ้าเหนื่อยมากๆ ต้องการน้ำตาล ก็จะสั่งโอวัลตินเย็นไม่ใส่น้ำตาล

เราติดกาแฟด้วยค่ะ แต่ก่อนชอบกินคาราเมลมัคคิโต ก็ค่อยๆลดลง เป็นลาเต้ คาปู
จนตอนนี้เรากินแต่อเมริกาโน่แล้ว

ลองดูนะคะ น้ำหนักอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ระดับน้ำตาลในเลือดถ้าเสี่ยงเป็นเบาหวาน จะแย่เอา ^^
ความคิดเห็นที่ 21

เราก็เคยติดพวกชาหวานนะ พวกชานม ชาเขียว ชามะลิเนี่ยของชอบเลย
แต่พอเราเริ่มลด นน. เราก็ค่อยๆลดโดยการลดจำนวนการกิน ก็คือ
จากที่เคยกินทุกวัน ก็เปลี่ยนมาเป็น 2-3 วันครั้ง แล้วสั่งหวานน้อย
ต่อมาก็ค่อยๆห่าง หวานน้อยหรือโนไซรัปไปเลย ตอนนี้เราเลิกได้แล้ว
กาแฟก็เปลี่ยนเป็นร้อน คาปูชิโนไม่ใส่ไซรัป รู้สึกร่างกายเบาขึ้นมาก
อีกตัวช่วยนึงก็คือ ชาเขียวแบบขมๆ จิบบ่อยๆให้ลิ้นของเรามันชินกับความขม
เพราะ ถ้าเมื่อก่อนเรากินหวานมากๆ ลิ้นเราก็จะติดหวาน ต้องเรยกหาของหวานตลอด
แต่พอเจอขมเข้าไป ก็จะลืมความหวานไปได้เอง กินหวานก็จะไม่อร่อยแล้วล่ะ


             สมาชิกพันทิปท่านหนึ่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ติดการดื่มน้ำหวานๆ ซึ่งเธอก็ต้องการที่จะลดการดื่มลง ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก วันนี้ไข่เจียวจะพาไปดูว่า บรรดาชาวเน็ต เขามีวิธีไหนในการบำบัดตัวเองจากการเสพติดน้ำหวานบ้าง

ขอบคุณที่มาจาก : kaijeaw.com

ติดตามข่าวอื่นๆ

0 comments